ท้าวความกันหน่อยเราอยากไปเที่ยวต่างประเทศมาก แต่ตังค์ก็มีไม่มากพอ
ก็เลยตกลงกับแฟนว่า ทุกๆเดือน เราต้องเจียด เงินเดือนมาคนละ 5,000 บาท
มาฝากประจำเอาไว้นะ ก็เก็บตังค์กันเรื่อยมา จนได้เงินก้อนใหญ่ จริงๆอ่ะ
อยากไปญี่ปุ่น แต่ตังค์ยังไม่พอ ก็เลยไปเกาหลี
ด้วยความที่ไปต่างประเทศครั้งแรกก็เลยไปกับทัวร์ ก็หาข้อมูลมาหลายเจ้า
ก็มาได้เจ้านี้(Travel Design Air)แหล่ะ
วันเสาร์ เดือนมิถุนายน จะไปจองทัวร์พร้อมจ่ายตังค์ โดยตัดสินใจไปเที่ยวเดือน ต.ค.
คิดไว้ใจเที่ยวซักกลางเดือน ต.ค. เพราะปลายๆเดือน งานเราจะเยอะ พอไปถึงปุ๊ป
วันที่หมายตาเต็มแล้ว(คิดในใจ บ้ารึป่าว ฉันมาจองล่วงหน้า 3-4 เดือน ยังเต็มเลย)
ก็เลยได้มา 27-31 ต.ค เอาก็เอา จ่ายตังค์เสร็จสรรพก็รอเวลาเที่ยวกันละ
ก่อนไปเที่ยวล่วงหน้า ก็จะมีหัวหน้าทัวร์ โทรมาคอนเฟิร์มเวลานัดเจอกันที่สนามบิน
พร้อมกับสภาพอากาศที่เกาหลี
27 ต.ค. 2012(ณ สนามบินสุวรรณภูมิ)
ตื่นเต้นมากกกก ก่อนไปก็เตรียมหนังสือรับรองการทำงาน นามบัตร
กลัวไม่ผ่าน ต.ม. เพราะพาสปอร์ตใหม่เอี่ยมอ่องเลย ก็ไปถึงสนามบิน
แต่ยังไม่เจอทัวร์ของเราเลยนิ ก็เลยโทรไปถามหัวหน้าทัวร์เค้าบอกว่าอีกซักพักจะไปถึง
ก็เลยไปกินข้าวก่อน พอกินข้าวเสร็จขึ้นมาก็เจอละ ก็มาเช็คชื่อ
เจ้าหน้าที่ก็ให้เอกสารเรามากรอกนิดหน่อย
ส่วนเค้าก็เอาพาสปอร์ตเราไป เพื่อเตรียม Check-in
ให้เรา หลังจากนั้นก็ได้Boarding Passมาก็เดินตัวปลิว
ไป ต.ม.กันเลย ถึงเวลาก็ขึ้นเครื่องบิน
ตอนนั้นเราบินกับ Business Air ไม่มีรูปภายในมา
ให้ดูนะจ๊ะ ตัดฉับมาที่สนามบินเกาหลีเลย
เราเดินไปถึง ต.ม.เกาหลีคนแรก
เตรียมเอกสารในมือไว้พร้อม แต่เจ้าหน้าที่
ก็ไม่ถามไรเลย ออกมาได้ก็มารับกระเป๋า
แล้วก็ไปทำธุระส่วนตัวที่ห้องน้ำ ก็จะเจอไกด์ชาวเกาหลีที่พูดภาษาไทยได้มารอรับ
28 ต.ค.2012(เกาะนามิ-วัดเขาชินอันซาน)
เมื่อคณะลูกทัวร์พร้อม ก็ไปขึ้นรถกันเลย ทัวร์วันนั้นมี 28 คน อยู่ครบทั้งไปและกลับ
มีทั้งมาเดี่ยว มาคู่ มาเป็นหมู่คณะ นั่งรถก็นานอยู่เหมือนกันจากสนามบินไปเกาะนามิ
รถติดด้วยแหล่ะ 2 -3 ชั่วโมง
ตื่นเต้นมากที่เห็นต้นไม้เปลี่ยนสีทั้งต้นของจริงครั้งแรก |
เด็กน้อยเกาหลีเก่งมากเลยมาปั่นจักรยานกัน 2 คน |
(เป็นการนำเอาไก่ ผัก ข้าวมาผัดกับซอส)และกินกับผักสด ผักที่เกาหลีไม่ขมเลยอ่ะ
อิ่มแล้วก็เตรียมเดินทางไปขึ้นเรือ เราต้องไปซื้อตั๋วก่อน โดยมีสาวน้อยผู้ช่วยไกด์วิ่งไปซื้อ
ตั๋วมาให้
ต่อแถวรอขึ้นเรือ |
ต้นไม้เปลี่ยนสีภายในเกาะนามิ |
หลังจากกลับจากเกาะนามิ ก็ไปอุทยานแห่งชาติเมาท์โซรัค
เนื่องจากก่อนที่เราจะมาถึงเกาะนามินั้นรถติดมากกกกก
ทำให้อะไรต่างๆต้องเลื่อนไปหมด ดังนั้นเราต้องไปวัดชินฮันซา
เลยไม่ได้ไปอุทยานแห่งชาติเมาท์โซรัค กว่าจะไปถึงวัดก็มืด
ก็ได้ลงไปไหว้พระซักแป็บนึง ไปถึงก็มองอะไรไม่เห็นแล้ว
เพราะมืดและอากาศก็หนาวมากกก
พระที่วัดชินฮันซา |
อากาศหนาวเลยต้องอุ่นมือกับถ้วยใส่ข้าว |
เมื่อทานข้าวใกล้จะเสร็จ ก็จะมีพวกรถขายของฝากซึ่งอยู่หน้าร้าน เอาขนมมาให้ชิม
ถ้าอร่อยติดใจก็ไปซื้อที่รถหน้าร้านได้เลย ลุงแกพูดไทยได้นิดหน่อย
วันนั้นแกเอาข้าวเกรียบงาดำมาให้ชิม แล้วบอกว่า งาดำอร่อยมาก
อุดหนุนข้าวเกรียบผสมงาดำลุงแกหน่อย |
เปิดประตูห้องก็จะเป็นแบบนี้เลย |
ห้องนอนเล็ก |
ห้องนั่งเล่น |
บริเวณครัว |
ห้องนอนใหญ่ เครื่องนอนอยู่ในตู้เสื้อผ้า เอาปูนอนเองเลย |
ห้องน้ำ |
29 ต.ค. 2012(วัดนัคซันซา-เอเวอร์แลนด์-โซล)
อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ออกหากิน ร่าเริงแจ่มใส ไม่ใช่ละ บ่งบอกอายุมากเลย
ตามสูตรทัวร์กันเลย 6-7-8 ตื่น 6 โมง กินข้าว 7 โมง ออก 8 โมง ห้องอาหารที่รีสอร์ท
ไม่ค่อยจะมีไรกินซักเท่าไร มันไม่ค่อยเวอร์วังอลังการเหมือนบ้านเรา(ไม่มีรูปนะ)
มาดูวิวรอบๆรีสอร์ทกันดีกว่า
ตามสูตรทัวร์กันเลย 6-7-8 ตื่น 6 โมง กินข้าว 7 โมง ออก 8 โมง ห้องอาหารที่รีสอร์ท
ไม่ค่อยจะมีไรกินซักเท่าไร มันไม่ค่อยเวอร์วังอลังการเหมือนบ้านเรา(ไม่มีรูปนะ)
มาดูวิวรอบๆรีสอร์ทกันดีกว่า
ยอดเขาโซรัค |
บริเวณสวนภายในรีสอร์ท |
สโตนเฮนท์ก็มี |
หลังจากสมาชิกพร้อมเพรียงกันแล้วก็ขนกระเป๋าย้ายออกกันเลย
อยากจะบอกว่าชาวคณะทริปนี้ดีมากตรงเวลาเป๊ะกันทุกคน ก็เดินทางไปวัดนัคซันซา
วัดนี้อยู่ไม่ไกลซักเท่าไร เป็นวัดที่อยู่ใกล้ทะเล โดยมีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่
หันหน้าออกไปทางทะเล
ของแท้ละว่ามันเป็นอย่างไร ร้านนี้น่าจะดังอยู่เพราะเห็นรูปดาราไทยมากิน
เยอะแยะเลย ร้านนี้อยู่ก่อนถึงสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ก่อนจะเข้าร้าน
ไกด์แนะนำให้ถอดเสื้อคลุมทิ้งไว้บนรถดีกว่า กลิ่นจะได้ไม่ติดตามมา
ตัวนี้ยังเล็กอยู่ ยังกินไม่ได้ |
ตัวนี้กำลังกิน 555 ไม่ใช่ละ เป็นหมาที่เลี้ยงไว้ของที่ร้าน |
หมูเกาหลีของแท้ อร่อยมากกก |
หลังจากกินอิ่มแล้ว ก็ออกมาซื้อของฝากกัน ร้านนี้มีของฝากขายเยอะอยู่
บริเวณทางออกของร้านเค้าจะมีสเปรย์ไว้ฉีดเสื้อผ้าไว้ด้วยหลังกินเสร็จ
เสื้อผ้าจะได้หอมๆ หลังจากนั้นก็ไปสวนสนุกเอเวอร์แลนด์กัน แต่มีเวลาไม่ค่อยมาก
เลยไม่ค่อยได้เล่นอะไร ส่วนมากเดินดู เพราะเครื่องเล่นก็มีคนต่อคิวยาวอยู่
ประกอบกับเราก็เล่นอะไรที่หวาดเสียวไม่ค่อยได้ พอถึงลานจอดรถเอเวอร์แลนด์
ก็ต้องมาต่อรถบัสของเอเวอร์แลนด์เข้าไปในสวนสนุก ช่วงที่ไปก็เป็นช่วงสิ้นเดือนตุลา
ทางสวนสนุกก็เลยจัด Theme ของสวนสนุกเป็นเทศกาลฮาโลวีน
โดยทางไกด์ก็ให้ทุกคนไปนั่งกระเช้า เพื่อไปโซนข้างล่างก่อน แล้วเดินไล่ขึ้นมาด้านบน
จะได้ไม่เสียเวลา
รอคิวขึ้นรถบัสเพื่อนที่จะเข้าไปสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ |
ภายในรถบัสของเอเวอร์แลนด์ |
หลังจากผ่านเข้ามาภายในสวนสนุก จะเจอต้นไม้นี้ |
นั่งกระเช้าไปโซนข้างล่างกัน |
ต้นไม้เริ่มเปลี่ยนสีเยอะแล้ว |
ถ่ายกับเด็กอนุบาลที่มาเที่ยวเอเวอร์แลนด์ ขออนุญาตคุณครูแล้ว |
สาวน้อยจินนี่ผู้ช่วยไกด์ |
บริเวณทางออกประตูก่อนกลับ |
หลังจากเที่ยวเอเวอร์แลนด์ ทีนี้ก็จะเข้ากรุงโซลกันแล้ว โดยไกด์จะพาเราไปทิ้ง
บริเวณมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา แล้วก็นัดแนะเวลาขึ้นรถเพื่อไปทานข้าว
เย็นนี้กินจิมดัก ไก่พะโล้ผัดวุ้นเส้นเกาหลี อร่อยดีนะ เผ็ดพริกไท หลังจากนั้นก็เข้าพักที่โรงแรม
เดินดูอย่างเดียว ไม่รู้จะซื้ออะไร |
คิตตี้คาเฟ่ |
จิมดัก ไก่พะโล้ผัดวุ้นเส้นเกาหลี |
เช้านี้ก็เหมือนเดิมค่ะ 6-7-8 อาหารของโรงแรมก็เหมือนเดิม ดูไม่ค่อยจะมีไรกิน
พี่หัวหน้าทัวร์ก็จะคอยมาถามตลอดว่ากินได้มั๊ย เค้าเห็นเรากินน้อย
จริงๆกินได้สบายเลยแหล่ะ เช้าๆเราไม่ค่อยกินไรด้วย อาหารเช้าที่โรงแรม
ส่วนมากเป็นอาหารอ่อนๆ มีข้าว มีซุปสาหร่าย กับไม่กีอย่างและก็พวกผลไม้ ซีเรียล
พี่หัวหน้าทัวร์ก็จะคอยมาถามตลอดว่ากินได้มั๊ย เค้าเห็นเรากินน้อย
จริงๆกินได้สบายเลยแหล่ะ เช้าๆเราไม่ค่อยกินไรด้วย อาหารเช้าที่โรงแรม
ส่วนมากเป็นอาหารอ่อนๆ มีข้าว มีซุปสาหร่าย กับไม่กีอย่างและก็พวกผลไม้ ซีเรียล
ซากอาหารเช้า |
แต่ไม่ได้แอ้มตังค์เราหรอกเพราะว่ามันแพง จริงๆเค้าไม่ให้ถ่ายรูปภายในศูนย์โสม
เค้ามาห้ามทีหลัง ตอนเราถ่ายไปเยอะละ
โสมขนาดต่างๆ |
โสมรูปคน แบบนี้น่าจะแพงสุด |
ตอนแรกเราคิดว่ามันต้องเหม็นและขมเครื่องยาแน่เลย เราเลยไม่สั่ง
เพราะไกด์ถามว่าใครจะไม่เอาไก่ตุ๋นโสมบ้าง จะมีมาม่าเกาหลีกับข้าวไข่เจียว
เราเลยเลือกมามา่าเกาหลีแทน เซฟตัวเองไว้ก่อน ยังไงมาม่าเกาหลีฉันต้องกินได้แน่
พอไก่ตุ๋นโสมมา เราเลยชิมของแฟนดุ ปรากฎว่ามันอร่อยแฮะ ไม่ถึงกับอร่อยหรอก
กินได้และก็ไม่แย่อย่างที่คิด ไก่ตุ๋นโสมก็มีขนาดไม่ใหญ่ ตัวใหญ่กว่านกพิราบหน่อยนึง
ภายในก็มีข้าวเหนียว เกาลัด พุทราจีน โสม ยัดไส้ภายในตัวไก่ อ้อ เค้ามีเหล้ามาให้จอกนึง
จะกินเพียวๆเลยก็ได้หรือเอามาเทใส่ลงในไก่ตุ๋นโสมก็ได้
แล้วเค้าก็มีเส้นคล้ายขนมจีนบ้านเรามาให้ด้วย
หน้าร้านไก่ตุ๋นโสม ต้องขึ้นไปชั้น 3 |
ร้านขนมปังขึ้นชื่อของที่นี่ มีหลายสาขา |
ขนมภายในร้าน |
ขนมภายในร้าน |
เมื่ออิ่มเรียบร้อยแล้ว ก็ไปขึ้นโซลทาวเวอร์กันเลย การไปโซลทาวเวอร์นั้น
รถบัสก็จะมาส่งเราตรงบริเวณที่จอดรถ หลังจากนั้นเราก็เดินขึ้นเขากันค่ะ
ก็เดินไกลอยู่ ก็เดินไต่ขึ้นไป ดีนะอากาศเย็น แต่ก็มีหอบพอหอมปากหอมคอ
เห็นโซลทาวเวอร์ลิบๆแล้ว |
ออกกำลังกาย โดยการเดินขึ้นเขา |
เด็กนักเรียนอนุบาลก็มา |
ทหารก็มี |
ใบไม้แดงทั้งต้น สวยงามตามท้องเรื่อง |
บริเวณคล้องกุญแจคู่รัก แต่ไม่ได้คล้อง อาศัยถ่ายรูปเฉยๆ |
วิวบริเวณยอดเขา |
มาสคอตของโซล |
ขาลงก็สบายหน่อย |
ร้านค้าที่เป็นรถเข็นก็เลยยังไม่มาขาย ก็เลยไม่ค่อยมีไรน่าสนใจหรือ
น่าซื้อกินเท่าไรก็ได้แต่เครื่องสำอางค์มาแค่นั้นแหล่ะ
บริเวณทางเข้าเมียงดง |
รอรับของแจกก่อนเข้าไปละลายทรัพย์ |
ช็อปตามโพย |
ภายในบริเวณร้าน Etude ผู้ชายก็ได้แต่ยืนรอกันไป |
เปลี่ยนมาร้านนี้ละ |
ร้านนี้สบายหน่อย มีพนักงานคนไทย ยื่นราการสั่งของแล้วยืนรอกันเลย |
ภายในร้าน Skin Food |
ร้านค้าบริเวณเมียงดง |
หนาวๆก็ต้องไอติม ถ้าบ้านเรานี่คงไม่ได้อยู่ทรงแบบนี้แน่ |
ร้านค้าและผู้คนมาช็อปปิ้ง |
เสร็จจากเมียงดงก็มุ่งหน้าไปทงแดมุน เข้าไปแล้วก็เหมือนแพลตทินั่มบ้านเรา
ก็เลยไม่ได้ซื้ออะไร เดินเล่นรอเวลากินข้าวเย็น เย็นนี้ไปกินบุฟฟเฟต์ขาปูยักษ์
ตอนแรกๆก็ตื่นเต้นนะ ที่จะได้กินขาปูยักษ์อยากบอกว่ามันไม่อร่อย
มันเป็นขาปูแช่แข็ง ปูบ้านเราอร่อยกว่า
บริเวณหน้าห้าง |
ไม่ได้ช็อปไรเลยแวะร้านกาแฟฆ่าเวลา นั่งคิดตังค์ว่าใช้ไรไปเท่าไร |
บริเวณหน้าห้าง |
รอบๆทงแดมุน |
หน้าร้านบุฟเฟ่ต์ ขาปูยักษ์ |
ขาปูยักษ์พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดจากหัวหน้าทัวร์ |
หยิบมากินแค่นี้ |
ที่ถ่ายทำซีรีย์เรื่อง A Gentleman's Dignity ร้องลั่นรถเลย จนคนทั้งรถหันมามอง
อีนี่เป็นไร 2-3วันที่ผ่านมาก็เรียบร้อยดี พอถึงโรงแรมกก็นั่งแท็กซี่ไปเลย
บอกแท็กซี่ขับตรงไปอย่างเดียว(ภาษามือ) ก่อนไปขอนามบัตรโรงแรมไว้
ขากลับจะได้ไม่ต้องเมื่อยมือ ยื่นนามบัตรอย่างเดียว ส่งถึงที่
หน้าร้านก็ฟินละ |
ถ่ายคู่กับนางเอก |
ถ่ายกับรูปพระเอก |
มะม่วงปั่นกับมะม่วง มะพร้าวปั่น |
ภายในบริเวณร้าน |
หน้าร้านก่อนกลับ |
เครื่องสำอางค์ทั้งหลาย |
31 ต.ค.2012(คลองชอนเกชอน-สนามบิน)
6-7-8 เช้านี้อาหารเช้า โรงแรมเหมือนเมื่อวานเลย แต่เช้านี้จะไป Lotte Duty Free
แต่เราไม่ได้จะช็อปอะไรแล้วก็เลยเดินไปคลองชอนเกชอนที่อยู่แถวๆนั้นแทน
หลังจากนั้นก็ไปร้านจิวเวอร์รี่อะไรซักอย่าง เราเข้าไปแป็ปเดียวก็ออกมา
แล้วก็ไปกินข้าวกลางวันเหมือนเป็นสุกี้อ่ะ จำชื่อไม่ได้ละ กินเสร็จแล้ว
ก็ไปร้านละลายวอนใกล้กับสนามบิน ได้มาม่ากับสาหร่ายมา
เอาของทั้งหมดแพ็คลงกล่องที่นั่นหมด
แต่เราไม่ได้จะช็อปอะไรแล้วก็เลยเดินไปคลองชอนเกชอนที่อยู่แถวๆนั้นแทน
หลังจากนั้นก็ไปร้านจิวเวอร์รี่อะไรซักอย่าง เราเข้าไปแป็ปเดียวก็ออกมา
แล้วก็ไปกินข้าวกลางวันเหมือนเป็นสุกี้อ่ะ จำชื่อไม่ได้ละ กินเสร็จแล้ว
ก็ไปร้านละลายวอนใกล้กับสนามบิน ได้มาม่ากับสาหร่ายมา
เอาของทั้งหมดแพ็คลงกล่องที่นั่นหมด
จากหน้าต่างโรงแรม |
อาหารเช้า |
แยกไม่ออกคนไหนไกด์กับลูกทัวร์ หน้าตาคล้ายๆกัน |
แถวคลองชองเกชอน |
บริเวณคลองชองเกชอน |
น้ำใส ไหลเย็น |
คนขับรถ |
บริเวณห้องน้ำภายในร้านอาหาร |
ทางเดินภายในร้านอาหาร |
ต้องจารึกไว้ซะหน่อย |
กระเป๋าและของฝาก |
จบแล้วววววสำหรับการไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของเรา(ต้องระลึกชาติกันหน่อย)
คราวหน้าจะพาไปเที่ยวญี่ปุ่น ครั้งนี้กล้าหาญชาญชัยมาก ไปเองเลยค่ะ
เดี๋ยวมาดูกันว่าจะหลงไม่หลง ขอบคุณนะคะที่ติดตาม
คราวหน้าจะพาไปเที่ยวญี่ปุ่น ครั้งนี้กล้าหาญชาญชัยมาก ไปเองเลยค่ะ
เดี๋ยวมาดูกันว่าจะหลงไม่หลง ขอบคุณนะคะที่ติดตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น